การตัดหนี้สูญตามกฎหมาย
การตัดหนี้สูญเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจ เพราะนอกจากจะช่วยให้งบการเงินสะท้อนความเป็นจริงแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางภาษีได้อีกด้วย บทความนี้จะอธิบายหลักเกณฑ์และวิธีการตัดหนี้สูญตามกฎกระทรวงฉบับที่ 186 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
คุณสมบัติของหนี้ที่สามารถตัดเป็นหนี้สูญได้
- เป็นหนี้ที่เกิดจากการประกอบกิจการหรือเนื่องจากการประกอบกิจการ
- เป็นหนี้ที่ยังไม่ขาดอายุความ
- มีหลักฐานชัดเจนที่สามารถฟ้องร้องลูกหนี้ได้
- ไม่ใช่หนี้ที่เกิดจากกรรมการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการ (ทั้งในอดีตและปัจจุบัน)
เงื่อนไขการตัดหนี้สูญตามมูลค่าหนี้
กรณีหนี้มูลค่าไม่เกิน 200,000 บาท
ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 271) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถตัดเป็นหนี้สูญได้ หากมีลักษณะดังนี้:
- เป็นหนี้จากการจำหน่ายสินค้าหรือให้บริการ และ
- ได้นำไปรวมเป็นรายได้ในการเสียภาษีแล้ว และ
- ได้มีการติดตามทวงถามโดยมีหลักฐานการติดตามอย่างชัดแจ้ง แต่ไม่ได้รับชำระหนี้ และ
- มีการดำเนินการตามสมควรจนถึงที่สุดเพื่อให้ได้รับชำระหนี้ แต่ไม่ได้รับชำระหนี้
ตัวอย่างกรณีศึกษา
กรณีที่ 1: มีลูกหนี้ค้างชำระ 1.5 ล้านบาท
- ได้ติดตามทวงถามหลายครั้ง มีหลักฐานการส่งจดหมายทวงถาม
- พบว่าลูกหนี้เสียชีวิตและไม่มีทรัพย์สิน
- สามารถตัดเป็นหนี้สูญได้ตามเงื่อนไขหนี้ไม่เกิน 2 ล้านบาท
ข้อควรระวังในการตัดหนี้สูญ
- ต้องเก็บหลักฐานการติดตามทวงถามหรือเอกสารการดำเนินคดีอย่างครบถ้วน
- ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจภายในระยะเวลาที่กำหนด
- กรณีดำเนินการในต่างประเทศ ต้องมีการรับรองเอกสารตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ
- ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและภาษีเพื่อให้การดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย
หัวข้อ | หนี้ไม่เกิน 200,000 บาท | หนี้ไม่เกิน 2 ล้านบาท | หนี้เกิน 2 ล้านบาท |
---|---|---|---|
การติดตามทวงถาม | ✓ เพียงพอแล้ว | ✓ ทำได้ | ✓ ทำได้ |
การฟ้องคดีแพ่ง | ไม่จำเป็น | ✓ เพียงศาลรับฟ้อง | ✗ ต้องมีการบังคับคดี |
การฟ้องล้มละลาย | ไม่จำเป็น | ✓ เพียงศาลรับฟ้อง | ✗ ต้องมีการแบ่งทรัพย์สิน/ปิดคดี |