จุดความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (Tax Point)

   

จุดความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (Tax Point)

ทำความเข้าใจเรื่อง Tax Point คืออะไร?

Tax Point หรือจุดความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ จุดที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการมีภาระภาษีเกิดขึ้น ทำให้เกิดสิทธิและหน้าที่ในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากผู้ซื้อหรือผู้รับบริการ การรู้ว่า Tax Point เกิดขึ้นเมื่อไหร่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นตัวกำหนดว่าผู้ประกอบการต้องออกใบกำกับภาษี นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม และรายงานภาษีในรอบระยะเวลาใด หากทำไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางภาษี เช่น การเสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม หรือถูกประเมินภาษีย้อนหลัง บทความนี้จะอธิบาย Tax Point ในธุรกิจประเภทต่างๆ อย่างละเอียด เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง

จุดความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มแบ่งตามประเภทธุรกิจ

จุดความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มแตกต่างกันไปตามประเภทของธุรกิจ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้:

1. ธุรกิจการขายสินค้า

การขายสินค้า หมายถึง การจำหน่าย จ่าย โอนสินค้า ไม่ว่าจะมีประโยชน์หรือค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม ธุรกิจขายสินค้าสามารถแบ่งย่อยได้ดังนี้

1.1 การขายสินค้าทั่วไป

Tax Point เกิดเมื่อ: ส่งมอบสินค้า
ยกเว้น หากมีการกระทำต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนการส่งมอบสินค้า ให้ถือว่า Tax Point เกิดเมื่อ:
  • โอนกรรมสิทธิ์สินค้า หรือ
  • ได้รับชำระค่าสินค้า หรือ
  • ได้ออกใบกำกับภาษี

1.2 การขายสินค้าตามสัญญาเช่าหรือสัญญาซื้อขายผ่อนชำระ

Tax Point เกิดเมื่อ: ถึงกำหนดชำระตามงวดแต่ละงวด
ยกเว้น หากมีการกระทำต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนกำหนดชำระราคาแต่ละงวด ให้ถือว่า Tax Point เกิดเมื่อ:
  • ได้รับชำระค่าสินค้า หรือ
  • ได้ออกใบกำกับภาษี

1.3 การขายสินค้าโดยมีการแต่งตั้งตัวแทนเพื่อขาย

Tax Point เกิดเมื่อ: ตัวแทนได้ส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ซื้อ
ยกเว้น หากมีการกระทำต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนส่งมอบสินค้า ให้ถือว่า Tax Point เกิดเมื่อ:
  • ตัวแทนได้โอนกรรมสิทธิ์สินค้าให้ผู้ซื้อ หรือ
  • ตัวแทนได้รับชำระราคาสินค้า หรือ
  • ตัวแทนได้ออกใบกำกับภาษี หรือ
  • ได้มีการนำสินค้าไปใช้ไม่ว่าโดยตัวแทนหรือบุคคลอื่น

1.4 การขายสินค้าโดยการส่งออก

Tax Point เกิดเมื่อ:
  • การส่งออกสินค้าทั่วไป: เมื่อมีการชำระอากรขาออก วางหลักประกันขาออก หรือจัดให้มีผู้ค้ำประกันขาออก (กรณีไม่เสียอากรขาออกหรือได้รับยกเว้น ให้ถือว่า Tax Point เกิดในวันที่มีการออกใบขนสินค้าขาออก)
  • การส่งออกโดยนำสินค้าเข้าไปในเขตปลอดอากร: เมื่อมีการนำสินค้าในราชอาณาจักรเข้าไปในเขตปลอดอากร
  • การส่งออกที่สินค้าอยู่ในคลังสินค้าทัณฑ์บน: เกิดพร้อมกับความรับผิดตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร

1.5 การขายสินค้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0

Tax Point เกิดเมื่อ: มีการโอนกรรมสิทธิ์สินค้าภายหลัง ซึ่งทำให้ผู้รับโอนมีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

2. ธุรกิจบริการ

2.1 การให้บริการทั่วไป

Tax Point เกิดเมื่อ: ได้รับชำระราคาค่าบริการ
ยกเว้น หากมีการกระทำต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนชำระค่าบริการ ให้ถือว่า Tax Point เกิดเมื่อ:
  • ได้ออกใบกำกับภาษี หรือ
  • ได้ใช้บริการนั้น ไม่ว่าจะด้วยตนเองหรือบุคคลอื่น

2.2 การให้บริการตามสัญญาที่กำหนดค่าตอบแทนตามส่วนของบริการ

Tax Point เกิดเมื่อ: ได้รับชำระราคาค่าบริการตามส่วนของบริการที่สิ้นสุดลง
ยกเว้น หากมีการกระทำต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนได้รับชำระราคาค่าบริการ ให้ถือว่า Tax Point เกิดเมื่อ:
  • ได้ออกใบกำกับภาษี หรือ
  • ได้ใช้บริการไม่ว่าโดยตนเองหรือบุคคลอื่น

2.3 การให้บริการที่ทำในต่างประเทศและได้มีการใช้บริการในประเทศไทย

Tax Point เกิดเมื่อ: มีการชำระค่าบริการทั้งหมดหรือบางส่วน แล้วแต่กรณี

2.4 การให้บริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0

Tax Point เกิดเมื่อ: ได้รับชำระค่าบริการ (กรณีที่มีการโอนสิทธิในบริการให้แก่ผู้รับโอนที่มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม)

3. ธุรกิจนำเข้า

3.1 การนำเข้าสินค้าทั่วไป

Tax Point เกิดเมื่อ: มีการชำระอากรขาเข้า วางหลักประกันอากรขาเข้า หรือจัดให้มีผู้ค้ำประกันอากรขาเข้า (กรณีไม่ต้องเสียอากรขาเข้า Tax Point เกิดในวันที่มีการออกใบขนสินค้าของกรมศุลกากร)

3.2 การนำเข้าสินค้าในราชอาณาจักรเข้าไปในเขตปลอดอากร แล้วนำออกโดยมิใช่เพื่อส่งออก

Tax Point เกิดเมื่อ: วันที่นำสินค้าออกจากเขตปลอดอากร

3.3 การนำเข้าสินค้าในกรณีของตกค้างตามกฎหมายศุลกากร

Tax Point เกิดเมื่อ: ทางราชการได้ขายทอดตลาดหรือขายโดยวิธีอื่น

3.4 การนำเข้าสินค้าที่ได้รับยกเว้นอากรตามพิกัดอัตราศุลกากร

Tax Point เกิดเมื่อ: พร้อมกับความรับผิดตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากร (กรณีภายหลังสินค้าต้องเสียอากร)

4. การขายสินค้าหรือให้บริการอื่นๆ

4.1 การขายกระแสไฟฟ้า น้ำประปา หรือสินค้าที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน

Tax Point เกิดเมื่อ: ได้รับชำระค่าสินค้า หรือเมื่อออกใบกำกับภาษี (หากมีการออกใบกำกับภาษีก่อนได้รับชำระค่าสินค้า)

4.2 การขายสินค้าที่ไม่มีรูปร่าง

Tax Point เกิดเมื่อ: ได้รับชำระราคาสินค้า
ยกเว้น หากมีการกระทำต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนได้รับชำระค่าสินค้า ให้ถือว่า Tax Point เกิดเมื่อ:
  • โอนกรรมสิทธิ์สินค้า หรือ
  • ได้ออกใบกำกับภาษี

4.3 การขายสินค้าหรือให้บริการด้วยเครื่องอัตโนมัติ

Tax Point เกิดเมื่อ: นำเหรียญ บัตร หรือสิ่งอื่นในลักษณะทำนองเดียวกันออกจากเครื่องอัตโนมัติ

4.4 การขายสินค้าโดยชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิต

Tax Point เกิดเมื่อ: ส่งมอบสินค้า
ยกเว้น หากมีการกระทำต่อไปนี้ ให้ถือว่า Tax Point เกิดเมื่อได้กระทำการนั้นๆ:
  • โอนกรรมสิทธิ์สินค้า หรือ
  • เมื่อมีการออกหลักฐานการใช้บัตรเครดิต หรือ
  • ได้ออกใบกำกับภาษี

4.5 การให้บริการโดยชำระค่าบริการด้วยบัตรเครดิต

Tax Point เกิดเมื่อ: มีการออกหลักฐานการใช้บัตรเครดิต (หรือเมื่อออกใบกำกับภาษี หากออกก่อนการออกหลักฐานการใช้บัตรเครดิต)

4.6 การขายสินค้าตามสัญญาจะขายสินค้า

Tax Point เกิดเมื่อ: ส่งมอบสินค้า
ยกเว้น หากมีการกระทำต่อไปนี้ ให้ถือว่า Tax Point เกิดเมื่อได้กระทำการนั้นๆ:
  • โอนกรรมสิทธิ์สินค้า หรือ
  • ได้รับชำระราคาสินค้า หรือ
  • ได้ออกใบกำกับภาษี

4.7 การนำสินค้าไปใช้โดยตนเองหรือบุคคลอื่น

Tax Point เกิดเมื่อ: นำสินค้าไปใช้หรือส่งมอบสินค้าให้บุคคลอื่นไปใช้

4.8 สินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ

Tax Point เกิดเมื่อ: มีการตรวจพบ

4.9 กรณีเลิกประกอบกิจการและมีสินค้าคงเหลือหรือทรัพย์สิน

Tax Point เกิดเมื่อ: เลิกประกอบกิจการหรือแจ้งเลิกประกอบกิจการ

4.10 กรณีถูกถอนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและมีสินค้าคงเหลือหรือทรัพย์สิน

Tax Point เกิดเมื่อ:
  • วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งถอนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ
  • วันที่ได้รับแจ้งการเพิกถอนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อสังเกตสำคัญเกี่ยวกับ Tax Point กรณีชำระด้วยเช็ค

กรณีชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยเช็ค

  • เช็คลงวันที่ก่อนส่งมอบสินค้าหรือก่อนโอนกรรมสิทธิ์: Tax Point คือวันที่ลงในเช็ค ผู้ประกอบการต้องออกใบกำกับภาษีและใบรับตามวันที่ลงในเช็ค
  • เช็คลงวันที่ที่ผ่านมาแล้ว: โดยทั่วไปให้ออกใบกำกับภาษีและใบรับตามวันที่ลงในเช็ค
ยกเว้น ในกรณีต่อไปนี้ ให้ออกใบกำกับภาษีและใบรับตามวันที่ได้รับมอบเช็ค:
  1. กรณีรัฐบาล องค์การรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ออกเช็ค
  2. กรณีผู้ออกเช็คเป็นบุคคลธรรมดา บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งได้ออกเอกสารรับรองว่าได้ส่งมอบเช็คให้แก่ผู้ประกอบการในวันเดือนปีใด และได้ส่งมอบเอกสารดังกล่าวในวันเดียวกันกับที่ส่งมอบเช็ค
   

ตารางเปรียบเทียบจุดความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (Tax Point)

1. ธุรกิจการขายสินค้า

ประเภทการขาย Tax Point เกิดเมื่อ ข้อยกเว้น (Tax Point เกิดเมื่อมีกรณีเหล่านี้ก่อน)
1.1 การขายสินค้าทั่วไป เมื่อส่งมอบสินค้า
  • โอนกรรมสิทธิ์สินค้า
  • ได้รับชำระค่าสินค้า
  • ได้ออกใบกำกับภาษี
1.2 การขายตามสัญญาเช่าซื้อ/ผ่อนชำระ เมื่อถึงกำหนดชำระตามงวดแต่ละงวด
  • ได้รับชำระค่าสินค้า
  • ได้ออกใบกำกับภาษี
1.3 การขายผ่านตัวแทน เมื่อตัวแทนส่งมอบสินค้าให้ผู้ซื้อ
  • ตัวแทนโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อ
  • ตัวแทนได้รับชำระค่าสินค้า
  • ตัวแทนออกใบกำกับภาษี
  • มีการนำสินค้าไปใช้
1.4 การส่งออก
  • กรณีทั่วไป: เมื่อชำระอากรขาออก/วางหลักประกัน/มีผู้ค้ำประกัน
  • กรณียกเว้นอากร: วันออกใบขนสินค้าขาออก
  • เขตปลอดอากร: วันนำสินค้าเข้าเขตปลอดอากร
  • คลังสินค้าทัณฑ์บน: ตามกฎหมายศุลกากร
1.5 การขายอัตรา 0% แล้วโอนกรรมสิทธิ์ภายหลัง เมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์สินค้า

2. ธุรกิจบริการ

ประเภทการบริการ Tax Point เกิดเมื่อ ข้อยกเว้น (Tax Point เกิดเมื่อมีกรณีเหล่านี้ก่อน)
2.1 การให้บริการทั่วไป เมื่อได้รับชำระค่าบริการ
  • ได้ออกใบกำกับภาษี
  • ได้ใช้บริการไม่ว่าโดยตนเองหรือบุคคลอื่น
2.2 บริการตามสัญญาแบ่งส่วน เมื่อได้รับชำระค่าบริการตามส่วนที่สิ้นสุด
  • ได้ออกใบกำกับภาษี
  • ได้ใช้บริการไม่ว่าโดยตนเองหรือบุคคลอื่น
2.3 บริการทำในต่างประเทศแต่ใช้ในไทย เมื่อมีการชำระค่าบริการ (ทั้งหมด/บางส่วน)
2.4 บริการอัตรา 0% แล้วโอนสิทธิภายหลัง เมื่อได้รับชำระค่าบริการ

3. ธุรกิจนำเข้า

ประเภทการนำเข้า Tax Point เกิดเมื่อ ข้อยกเว้น
3.1 การนำเข้าทั่วไป เมื่อชำระอากรขาเข้า/วางหลักประกัน/มีผู้ค้ำประกัน (กรณีไม่ต้องเสียอากร: วันออกใบขนสินค้า)
3.2 นำเข้าเขตปลอดอากร แล้วนำออก วันที่นำสินค้าออกจากเขตปลอดอากร
3.3 ของตกค้างตามกฎหมายศุลกากร เมื่อราชการขายทอดตลาดหรือขายโดยวิธีอื่น
3.4 นำเข้าได้ยกเว้นอากร แต่ภายหลังต้องเสีย พร้อมกับความรับผิดตามกฎหมายพิกัดอัตราศุลกากร

4. การขายสินค้าหรือให้บริการอื่นๆ

ประเภทธุรกิจ Tax Point เกิดเมื่อ ข้อยกเว้น
4.1 ขายไฟฟ้า น้ำประปา เมื่อได้รับชำระค่าสินค้า ออกใบกำกับภาษีก่อนได้รับชำระ: เมื่อออกใบกำกับภาษี
4.2 ขายสินค้าไม่มีรูปร่าง เมื่อได้รับชำระราคาสินค้า
  • โอนกรรมสิทธิ์สินค้า
  • ได้ออกใบกำกับภาษี
4.3 ขายผ่านเครื่องอัตโนมัติ เมื่อนำเหรียญ/บัตรออกจากเครื่อง
4.4 ขายโดยชำระด้วยบัตรเครดิต เมื่อส่งมอบสินค้า โอนกรรมสิทธิ์
 

สรุป: ความสำคัญของการเข้าใจ Tax Point

การเข้าใจ Tax Point อย่างถูกต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการภาษีมูลค่าเพิ่มของธุรกิจ เนื่องจาก:
  1. การออกใบกำกับภาษี: ผู้ประกอบการต้องออกใบกำกับภาษีให้ถูกต้องตาม Tax Point
  2. การนำส่งภาษี: ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มตามรอบระยะเวลาที่ Tax Point เกิดขึ้น
  3. หลีกเลี่ยงบทลงโทษ: การเข้าใจ Tax Point ช่วยให้หลีกเลี่ยงการเสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม หรือการประเมินภาษีย้อนหลัง
การวางแผนภาษีที่ดีเริ่มต้นจากการเข้าใจ Tax Point อย่างถูกต้อง หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ควรปรึกษาผู้เชี่

บริการของเรา

ที่ปรึกษาเฉพาะคุณ

"ข้อมูลบัญชีบอกผลการดำเนินงาน”

เราวิเคราะห์ตัวเลขที่เกิดขึ้น ให้คุณมีข้อมูลตัดสินใจในอนาคต ในทุกเรื่องของธุรกิจ ให้ธุรกิจเติบโต

HOW WE'RE DIFFERENT

TAWAN CONSULTANT

ผู้จัดทำบัญชีและผู้ตวจสอบบัญชีมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการทำงานมามากกว่า 10 ปี

ทีมงานสำนักงานบัญชีกำลังให้คำปรึกษาลูกค้าเพื่อวางแผนภาษีอย่างถูกกฎหมาย
5+

ผู้เชี่ยวชาญ

51+

ลูกค้าของเรา

1+

บริษัทในเครือเรา

ABOUT US

เราคือโอกาสให้คุณมีเวลากลับไปทำในสิ่งที่ธุรกิจคุณถนัดที่สุด ตัดสินใจได้ดีขึ้น และเติบโตอย่างมั่นคง

เราเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจที่มุ่งมั่นให้บริการธุรกิจ SME ทั่วประเทศ เราดูแลด้านบัญชีเพื่อลดภาระการจัดการตัวเลขของคุณ ในขณะที่คุณสามารถโฟกัสกับการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ บริการของเรายืดหยุ่นเพื่อให้สอดคล้องกับประเภทและขนาดธุรกิจของคุณ